ทีมชาติฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของซิลแวง ริปอล สามารถเข้าสู่รอบต่อไปหลังจากเก็บชัยรวมในรอบแบ่งกลุ่ม ล่าสุดสำเร็จลุ้นชนะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ด้วยคะแนน 4 – 1 ทางด้านอีกทีมชาติยูเครน พาทีมไปผ่านรอบแบ่งกลุ่มโดยไม่เสียใจ และติดตัวเข้าสู่รอบต่อไปในฐานะรองแชมป์กลุ่มบี
ในนาทีที่ 19 ทีมชาติฝรั่งเศสได้นำล้ำคู่แข่งไปด้วยคะแนน 1 – 0 โดยการที่แบร์ลีย์ บาร์โคล่าทะยานบอลจากด้านขวาเข้าสู่เขตโทษและตบให้รายยาน แชร์กี ซัดลูกเข้าเค้าหน้าสองแฟ้มยูเครน แต่ในนาทีที่ 32 ยูเครนก็ทำประตูเสมอได้คะแนน 1 – 1 ด้วยความสามารถของมิคาอิลโล มูดริคที่หลุดเข้าสู่เขตโทษด้านซ้ายก่อนที่จะถูกหวดลงไป ผู้ตัดสินได้แจ้งโทษทันทีและกอร์กี้ ซูดาคอฟได้สังหารลูกโดยไม่พลาด ในนาทีที่ 44 ยูเครนก็รักษาเป้าหมายโดยลูกบอลที่มิคาอิลโล มูดริคเก็บบอลในฝั่งซ้ายและส่งให้กอร์กี้ ซูดาคอฟหลุดเข้าสู่เขตโทษและยิงลูกเข้าไปอย่างเยือกเย็นโดยลูกาส เชอวาลิเยร์ สิ้นสุดครึ่งเวลาแรก ทีมชาติฝรั่งเศส 1 – ยูเครน 2
ในนาทีที่ 81 “ตราไก่” ได้ทำประตูเสมอกันด้วยคะแนน 2 – 2 โดยที่อนาโตลี ทรูบินปัดลูกบอลออกมาไม่ดีเข้าสู่ทางและเอลี่ วาฮีตัวสำรองได้ชาร์จเข้าสู่เขตโทษและส่งบอลซุกก้นตาข่ายเสียดายโดนวีเออาร์ จับล้ำหน้าดักนิดเดียว แต่ไม่นานหลังจากนั้นในนาทีที่ 86 ยูเครนได้นิ่งนอนกล่องป้องกันอย่างมาก และสำเร็จที่จะทำประตูเพิ่มคะแนนให้กับทีมด้วยคะแนน 3 – 1 โดยที่อาร์เตม บอนดาเรนโก ผู้เป็นกัปตันทีมนำบอลเข้าสู่เขตโทษด้านขวาได้วางบอลยกข้ามหัวและยิงลูกเข้าไปในเสาสูงโดยลูกาส เชอวาลิเยร์
หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูเพิ่มเติมและเกมจบลงด้วยคะแนน ฝรั่งเศส 1 – ยูเครน 3 และทีมยูเครนได้ลอยลำผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก เตรียมพบกับทีมชาติสเปนในวันพุธที่ 5 กรกฎาคม ปีนี้